นิทานชาดก อกาลราวิชาดก : ตายเพราะไม่มีใครสั่งสอน

เหตุที่ตรัสชาดก อกาลราวิชาดก : ทรงปรารภภิกษุผู้ท่องบ่น สวดมนต์ไม่เป็นเวลารูปหนึ่ง

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี

มีอาจารย์ทิศาปาโมกข์ผู้หนึ่ง มีลูกศิษย์ในปกครอง 500 คน ในสำนักเรียนนั้นมีไก่อยู่ตัวหนึ่งคอยขันให้สัญญาณแก่ลูกศิษย์เพื่อตื่นขึ้นมาศึกษาบทเรียน ไก่ตัวนี้ขันตรงเวลาดีมาก แต่ต่อมาไม่นานก็ตายตามสภาพสังขาร

เมื่อไก่ตัวนั้นตายแล้ว พวกลูกศิษย์ก็หาไก่ตัวใหม่มาเลี้ยงแทน เขาไปเจอมันในป่าช้า ก็จับมันมาใส่กรงเลี้ยงไว้ เนื่องจากเป็นไก่ป่า ไม่รู้เวลาขัน นึกอยากขันเมื่อไรก็ขันตามใจชอบ

พวกลูกศิษย์พากันตื่นตามเวลาที่ไก่ขัน บางวันขันดึกเกินไป ก็เป็นเหตุให้พวกเขาง่วงเหงาหาวนอน บางวันขันตอนสว่าง พวกลูกศิษย์ก็ไม่มีเวลาได้ศึกษาเล่าเรียน 

“ไก่ตัวนี้ขันไม่เป็นเวลา พวกเราจะเรียนไม่สำเร็จก็เพราะมันนี่แหละ” ลูกศิษย์คนหนึ่งบ่น

“นั่นสิ จับมันหักคอ ย่างกินเสียดีกว่า” อีกคนเสนอ

“เออ ดีเหมือนกัน ปล่อยมันไว้จะยิ่งลำบาก” อีกคนสนอง

ว่าแล้วก็ต้อนจับไก่ มาหักคอ ถอนขน แล้วย่างกินอย่างเอร็ดอร่อย

จากนั้นจึงได้นำความไปเล่าให้อาจารย์ฟังอย่างไม่ปิดบัง อาจารย์จึงให้โอวาท

“ไก่ตัวนี้มันไม่ได้อยู่ใกล้พ่อแม่และครูบาอาจารย์ จึงไม่มีใครสั่งสอนมัน ทำให้ไม่รู้จักเวลาใดควรขัน เวลาใดไม่ควร”

แล้วยังทิ้งท้ายอีกว่า

“พวกเจ้าก็เหมือนกัน หัดรู้เวลาและตื่นกันเองได้แล้ว ไม่ต้องหาไก่มาคอยปลุกจะดีกว่า”

ข้อคิดจากชาดก : อกาลราวิชาดก
1.การอยู่ใกล้พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ย่อมได้รับการสั่งสอนที่ดี ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร
2.การพึ่งพาคนอื่นอยู่เสมอ บางครั้งก็ทำให้สับสนวุ่นวายและนำความเดือดร้อนมาให้

ประชุมชาดก
ไก่ที่ขันไม่เป็นเวลา ได้เกิดเป็น ภิกษุผู้ท่องบ่นไม่เป็นเวลารูปนี้
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

นิทานชาดก อกาลราวิชาดก