เหตุที่ตรัสชาดก โกสิยชาดก : ทรงปรารภภรรยาของอุบาสกท่านหนึ่งที่เอาแต่นอนทอดถอนใจไม่ทำการงานอะไร (ลับหลังสามีก็แอบไปมีชู้) อุบาสกถามว่าเป็นอะไรนางบอกว่าเป็นโรคลมเสียดแทงต้องกินเนยใส น้ำนมและของที่ประณีต อุบาสกจึงรีบไปหามาให้ แต่กินเท่าไรก็ไม่หายสักที จึงได้มากราบทูลพระศาสดา
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี
มีอาจารย์ทิศาปาโมกข์ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่ในเมืองนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งเรียนจบแล้วและแต่งงานมีภรรยา ปกติจะมาหาอาจารย์ของเขาวันละ 2-3 ครั้งอยู่เสมอ แต่ช่วงนี้หายหน้าไปเพราะต้องไปดูแลภรรยาที่นอนป่วย เมื่อมีเวลาจึงได้มาไหว้อาจารย์
“เอ้า พ่อหนุ่ม หายหน้าหายตาไปหลายวันเชียวนะ เป็นอะไรหรือเปล่า” อาจารย์ถาม
“ตัวผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอกขอรับ แต่ภรรยาผมสิ ไม่รู้เป็นอะไร หน้าตาผิวพรรณก็ดูผ่องใสแต่นอนซมทั้งวันเลยขอรับ” ลูกศิษย์รายงาน
‘จะโรคอะไร มีชู้สิไม่ว่า’ อาจารย์นึกอยู่ในใจ เมื่อรู้ทันภรรยาของลูกศิษย์ดังนั้นจึงบอกไปว่า
“ข้าจะบอกสูตรยารักษาเมียเจ้าให้ก็แล้วกัน รับรองหายขาย เจ้าไปหาใบไม้สัก 4-5 ชนิด โขลกกับลูกไม้ 3 อย่าง แล้วหมักกับฉี่วัว ใส่ไว้ในโถทองแดงใหม่ๆ แล้วเอาไปให้นางกิน ถ้านางไม่กินก็บอกให้นางลุกมาทำงานไม่งั้นเจ้าก็ฟาดนางด้วยไม้เรียวสักทีลองที เดี๋ยวนางก็หายเอง”
“โห ทารุณนะครับอาจารย์” เจ้าลูกศิษย์เป็นห่วงเมีย
“เอาเถอะน่า ถ้าอยากให้เมียเจ้าหายก็เชื่อข้าเถอะ” อาจารย์ย้ำ
เมื่อเตรียมยาเรียบร้อยแล้วเจ้าหนุ่มก็เข้าไปหาภรรยาพร้อมกับไม้เรียวอันโต
“น้องรัก พี่ได้ยาสูตรพิเศษมา ลุกขึ้นกินยาก่อนจะได้หาย”
“ได้มาจากไหนหรอจ๊ะ” เมียถาม
“อาจารย์พี่บอกมา” เจ้าหนุ่มตอบ
“เอ่อ…ฉันไม่กินหรอกจ้ะ พี่เอาไปเก็บเถอะ” นางเมียเหม็นฉี่วัว
“เจ้าจะกินหรือไม่กิน ถ้าไม่กินก็รีบลุกขึ้นมาช่วยกันทำงานได้แล้ว ถ้าไม่ลุก พ่อจะฟาดให้!” ชายหนุ่มขู่ตะคอก
“จ้ะๆ ลุกแล้วจ้ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” เมียตัวดีหายเป็นปลิดทิ้งจริงๆ
ข้อคิดจากนิทานชาดก : โกสิยชาดก
มารยาหญิงยากนักจะหยั่งรู้
ประชุมชาดก
คู่สามีภรรยาในครั้งนั้น ได้เกิดเป็น คู่สามีภรรยาในชาตินี้
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า