นิทานชาดก อาสาตมันตชาดก : แม่เฒ่าตัญหากลับ

นิทานชาดก อาสาตมันตชาดก

เหตุที่ตรัสชาดก อาสาตมันตชาดก : ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่งที่ต้องการจะสึกออกไปครองเรือน ทรงตรัสสอนว่า ขึ้นชื่อว่าหญิงส่วนมาก ไม่น่ายินดี ไร้สติ ลามก เป็นผู้มีเบื้องหลัง แม้สังขารจะร่วงโรยแก่มากแล้วแต่ความมักมากในกามก็ยังมีอยู่  แล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาเล่า (เมื่อเล่าจบภิกษุนั้นก็บบรรลุโสดาปัตติผล)

ในอดีตกาล  เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี

มีตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่ง กระทำการบูชาไฟมาตั้งแต่วันที่บุตรของเขาเกิด โดยจุดไฟไว้ไม่ให้ดับเลย จนถึงวันที่บุตรของเขามีอายุได้ 16 ปี ผู้เป็นพ่อจึงได้ถามลูกชาย

ลูกรักของพ่อ บัดนี้เจ้าก็โตเป็นหนุ่มแล้ว เจ้าอยากออกบวชหรืออยากครองเรือนล่ะ ถ้าหากเจ้าต้องการจะไปเกิดในพรหมโลกก็จงถือไฟนั้นเข้าป่า บูชาพระอัคนีเทพเจ้า แต่ถ้าเจ้าอยากจะอยู่ครองเรือนก็จงไปสู่เมืองตักสิลา ร่ำเรียนวิชาให้เจนจบ แล้วค่อยมารับมรดกของพ่อเถิด”

แหมพ่อ ฉันยังหนุ่มยังแน่น จะให้ฉันออกบวชได้อย่างไรกัน ฉันจะไปเรียนวิชาในสำนักอาจารย์ทิศาปาโมกข์ แล้วจะกลับมาแต่งงานจ้ะพ่อ” ลูกชายบอกตามตรง

เมื่อเรียนวิชาจนจบทุกอย่างแล้วเขาก็มุ่งหน้ากลับบ้าน

พ่อจ๋า แม่จ๋า ฉันเรียนวิชาจนจบหมดทุกอย่างแล้ว” ลูกชายบอก

แล้ว ‘อสาตมนต์’ ล่ะ เจ้าก็เรียนจบแล้วหรือ” แม่ถามอย่างมีเลศนัย

อสาตมนต์ หรือแม่ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมนต์นี้เลย” ลูกชายงง

ถ้าอย่างนั้นเจ้าจงกลับไป แล้วแจ้งกับอาจารย์ว่าเจ้าต้องการเรียนอสาตมนต์ แล้วค่อยกลับมา”

ครับแม่…” ลูกชายรับคำแล้วก็มุ่งหน้าไปตักศิลาอีก

เจ้าว่าต้องการเรียน ‘อสาตมนต์’ งั้นหรือ” อาจารย์ทิศาปาโมกข์ถามย้ำ

ใช่ครับ มนต์บทนี้คืออะไรหรือครับอาจารย์”

ฝ่ายอาจารย์ก็ไม่เคยได้ยินชื่อมนต์บทนี้เช่นกันแต่เมื่อลูกศิษย์บอกว่าพ่อกับแม่เคี่ยวเข็ญให้เรียนให้ได้ อาจารย์จึงได้เข้าใจว่าพ่อและแม่เขาต้องการให้รู้ถึงโทษของสตรีเป็นแน่

เอาล่ะ ตั้งแต่บัดนี้เจ้าจงทำหน้าที่แทนเรา จงปรนนิบัติคุณแม่ของเราซึ่งตอนนี้ท่านมีอายุได้ 120 ปี โดยการอาบน้ำให้ท่านด้วยมือของเจ้าเอง ต้องคอยดูแลท่านทุกอย่าง ห้ามขัดใจท่านเป็นอันขาด และเมื่อเจ้าบีบนวดให้แม่ของเราเจ้าต้องพูดยกย่องว่า แม้คุณแม่จะแก่เฒ่าแล้วแต่ร่างกายของท่านยังดูกระชุ่มกระชวย ผิวพรรณดูสดใส ในยามที่คุณแม่ยังสาวจะสวยงามขนาดไหนหนอ แล้วแม่เราพูดอะไรกับเจ้าก็ให้มาบอกเราเถิด ทำอย่างนี้เราจึงจะสอน ‘อสาตมนต์’ ให้”

ตั้งแต่นั้นลูกศิษย์หนุ่มก็ตั้งใจปรนนิบัติแม่เฒ่าเป็นอย่างดี พร้อมทั้งพูดยกยอต่างๆ นา

ฝ่ายแม่เฒ่าเมื่อได้ยินคำเยินยอเช่นนั้นอยู่บ่อยๆ ก็คิดว่าหนุ่มผู้นี้คงจะอยากได้นางเป็นภรรยาจึงถามออกไปตรงๆ

พ่อหนุ่ม เจ้าอยากจะร่วมหลับนอนกับเราหรือ”

ครับคุณแม่แต่ติดที่ท่านอาจารย์เข้มงวดนัก” หนุ่มน้อยพูดเอาใจ

หากเจ้าต้องการจริง ก็ฆ่าเขาเสียสิ” แม่เฒ่าแนะนำ

เอ่อ..กระผมเป็นศิษย์ของท่าน กระผมฆ่าท่านเพราะเรื่องชู้สาวแบบนี้ไม่ได้หรอกครับ”

ถ้าเจ้าให้สัญญาว่าจะดูแลฉัน ฉันจะฆ่าเขาเอง!”

ลูกศิษย์หนุ่มกลับมาเล่าให้อาจารย์ฟังตามความจริงทุกประการ เมื่ออาจารย์ได้ฟังก็สลดใจเป็นยิ่งนัก หลังจากนั้นจึงตรวจดูอายุสังขารของมารดา พบว่าอย่างไรเสียท่านก็จะหมดอายุขัยในวันนี้เป็นแน่

เจ้าไปตัดไม้มะเดื่อมาต้นหนึ่ง ทำเป็นรูปหุ่นให้มีขนาดเท่ากับเรา เอาไปวางไว้บนที่นอนของเรา คลุมผ้าให้มิด แล้วทำเชือกสำหรับจับไว้ราวหนึ่ง และเวลาค่ำจงถือขวานไปให้แม่ของเรา”

เจ้าไม่ทิ้งฉันแน่นะ พ่อหนุ่ม” แม่เฒ่าถามย้ำ

ไม่ทิ้งหรอกครับคุณแม่” ชายหนุ่มตอบ

เมื่อได้รับความมั่นใจเช่นนี้ แม่เฒ่าจึงยักแย่ยักยันลุกขึ้น เดินงกๆเงิ่นๆ เกาะราวเชือกไปยังห้องลูกชายโดยไม่รอช้า

เมื่อเอามือคลำดู สำคัญว่าลูกชายของตนนอนอยู่ จึงเปิดผ้าห่มส่วนหน้าของหุ่นออกแล้วเงื้อขวานด้วยคิดว่าจะฟันครั้งเดียวให้ตายคาที่ แล้วฟันลงไปตรงคอเต็มแรง เมื่อเกิดเสียงดังกระด้างจึงทราบว่าที่ตนฟันนั้นเป็นไม้

คุณแม่ ทำอะไรขอรับ!” ลูกชายตนที่แอบดูอยู่ ร้องถามเสียงลั่น

แม่เฒ่าไม่ทันตอบได้แต่ปล่อยร่างให้ทรุดฮวบลง ด้วยความตกใจและเสียใจที่ถูกหลอกจึงขาดใจตายในเวลานั้น

(*หมายเหตุ ถึงนางจะนอนอยู่เฉยๆที่ห้องของตนก็จะต้องตายในเวลานี้เพราะหมดอายุขัยพอดี”

เมื่อทำศพแม่เฒ่าเสร็จสิ้นแล้ว อาจารย์จึงเรียกลูกศิษย์มาแล้วสอนว่า

อสาตมนต์นั้น จริงๆแล้วไม่มีบทเรียนนี้อยู่หรอก แต่พ่อกับแม่เจ้าคงอยากให้เจ้าเห็นพิษสงอันร้ายการและความไร้สติของหญิงส่วนมาก บัดนี้ เจ้าก็ได้เห็นด้วยตาของตนเองแล้ว จงกลับไปเถิด”

เจ้าเรียนอสาตมนต์จบแล้วหรือลูก” แม่ถาม

ครับแม่…” ลูกชายตอบ

คราวนี้เจ้าจะทำอย่างไร จะออกบวชหรือจะครองเรือนเล่าลูก”

แม่ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมเห็นโทษของหญิงส่วนมากที่มีแต่ความรักใคร่ยินดี มีแต่ความคะนองกาย ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักอิ่มในกามารมณ์ เหมือนไฟที่ไม่อิ่มด้วยเชื้อ ผมจะออกบวชครับ”

หนุ่มน้อยจึงได้ออกบวชเป็นฤาษีอยู่ในป่า ทำความเพียรจนสิ้นอายุขัยแล้วไปบังเกิดในพรหมโลก

ข้อคิดจากชาดก : อาสาตมันตชาดก
1. ไม่ว่าชายหรือหญิงเมื่อถูกความหลงเข้าครอบงำ แม้ต้องฆ่าลูก ก็ทำได้
2. อายุที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้ตัญหาลดลง เมื่อมีสิ่งมากระตุ้นสัญชาตญาณดิบก็จะเปิดเผยออกมา

ประชุมชาดก
มารดาชายหนุ่ม ได้เกิดเป็น ภิกษุณี ชื่อ ภัททกาปิลานีเถริยาปทาน

บิดาชายหนุ่ม ได้เกิดเป็น พระมหากัสสปะ
ชายหนุ่มผู้เป็นศิษย์ ได้เกิดเป็น พระอานนท์
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

นิทานชาดก อาสาตมันตชาดก