เหตุที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสชาดก สัญชีวชาดก : ทรงปรารภพระเจ้าอชาตศัตรูที่ไปคบหากับพระเทวทัตจนเลยเถิดไปทำการปลงพระชนม์พระราชบิดา ทำให้ในชาตินี้พระเจ้าอชาตศัตรูไม่อาจบรรลุธรรมใดๆได้
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เกิดในสกุลพราหมณ์ผู้มั่คั่ง เมื่อเจริญวัยและสำเร็จการศึกษาแล้วก็ได้ไปเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในนครพาราณสี มีลูกศิษย์ 500 คน ในบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นมีเพียงหนึ่งคนที่ได้เรียนวิชาชุบชีวิตคนที่ตายแล้วให้กลับมามีชีวิตใหม่ แต่ยังไม่ทันได้เรียนมนต์แก้และป้องกัน เขาชื่อว่า “สัญชีวะ“
วันหนึ่งเขาไปเข้าป่าเพื่อหาฟืนกับเพื่อนๆ เห็นเสือนอนตายอยู่ จึงพูดกับเพื่อนว่า
“พวกแกคอยดูนะ ฉันจะทำให้เสือตัวนี้ฟื้นขึ้นมา”
“ขี้โม้หรือเปล่า แกทำไม่ได้หรอก มันตายแล้วมันจะฟื้นได้ยังไง” เพื่อนไม่เชื่อ
“ฉันทำได้น่า พวกแกคอยดู” เขายังยืนยัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู” เพื่อนๆยอม แล้วก็รีบปีนขึ้นต้นไม้ไปดูนายสัญชีวะทำการร่ายมนต์
เขาหยิบหินมาก้อนหนึ่งทำการร่ายมนต์แล้วขว้างไปที่ตัวเสือที่นอนตายอยู่ ทันใดนั้น เสือก็ฟื้นขึ้นมาแล้วกระโดดเข้าขย้ำนายสัญชีวะที่ก้านคอจนสิ้นชีวิต เมื่อผู้ร่ายมนต์สิ้นใจมนต์ก็คลายลง ทั้งเสือและสัญชีวะนอนตายอยู่ด้วยกันตรงนั้นเอง
เพื่อนๆเห็นแล้วก็สลดใจและพากันกลับไปแจ้งแก่อาจารย์
อาจารย์จึงให้โอวาทว่า ผู้ที่ยกย่องคนไม่ดีไม่มีคุณธรรม โดยให้ลาภ ยศ ตำแหน่งแก่ผู้นั้น เขาย่อมกลับมาทำลายล้างผู้ที่ยกย่องเขาให้พินาศ เหมือนกับนายสัญชีวะที่ร่ายมนต์ชุบชีวิตให้กับเสือ แต่เสือมันก็กลับฆ่าผู้ที่ช่วยชีวิตมัน
ประชุมชาดก สัญชีวชาดก
นายสัญชีวะ ผู้ทำเสือตายให้ฟื้น ในครั้งนั้น ได้มาเป็น พระเจ้าอชาตศัตรู ในบัดนี้
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ได้มาเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
