นิทานชาดก วัณณุปถชาดก : น้ำใสใต้กอหญ้า

เหตุที่ตรัสชาดก วัณณุปถชาดก : ทรงปรารภภิกษุผู้ละความเพียรรูปหนึ่ง

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชย์สมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี

มีพ่อค้าเกวียนได้ทำการค้าด้วยเกวียน 500 เล่ม เดินทางไปค้าขายยังต่างเมือง และจำเป็นต้องเดินทางผ่านทะเลทรายซึ่งมีระยะทางประมาณ 60 โยชน์ ( 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร)

การเดินทางในทะเลทรายนั้น ในเวลากลางวันอากาศจะร้อนเหมือนกองถ่านเพลิง ไม่อาจเดินทางได้ ดังนั้นกองเกวียนจึงได้หยุดพักในเวลากลางวันแล้วเดินทางในเวลากลางคืน

พ่อค้าเกวียนเดินทางมาได้ 59 โยชน์ จึงคิดว่า อีกไม่นานก็จะพ้นทะเลทรายแล้ว จึงได้ให้ลูกน้องใช้ฟืนและน้ำทั้งหมด แล้วเดินทางต่อไปตามทิศทางของดวงดาว

ด้วยความเหนื่อยและความอ่อนเพลียที่ไม่ได้นอนหลับมาเป็นเวลานาน พ่อค้าเกวียนซึ่งเป็นผู้นำทาง จึงเผลอหลับไป แต่วัวและกองคาราวานก็ยังคงเดินทางต่อไป

เมื่อเขาตื่นขึ้น ปรากฏว่ากองเกวียนนั้นได้เดินวนกลับมาที่เดิม และใกล้จะเช้าแล้ว

จะทำอย่างไรดีในเมื่อเสบียงอาหารและน้ำไม่มีเหลือแล้ว

ฝ่ายลูกน้อง เมื่อตื่นขึ้นมาเห็นว่าได้เดินทางวนมาอยู่ที่เดิม ต่างก็ร้องโอดโอย นอนเศร้าโศกไปตามๆ กัน

“ทำยังไงดีล่ะลูกพี่ พวกเราหิวน้ำจะตายอยู่แล้ว”

“เอาเถอะ ใจเย็นๆ เราต้องมีทางออกจนได้แหละ” พ่อค้าเกวียนกล่าว แล้วเดินสำรวจพื้นที่ แล้วเขาก็สะดุดตากับกอหญ้าแพรกเขียวสดกอหนึ่ง พรางคิดในใจว่า ..ใต้นี้คงมีน้ำเป็นแน่ ไม่งั้นหญ้านี่คงจะแห้งตายไปนานแล้ว..  ว่าแล้วก็หันมาเรียกลูกน้องให้มาช่วยกันขุดพื้นทรายใต้กอหญ้านั้นทันที

ขุดลึกลงไปได้ประมาณ 60 ศอก จอบก็กระทบกับหินด้านล่าง ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า

“มีแต่ทรายกับหิน ไม่เห็นมีน้ำเลยลูกพี่ ฉันเหนื่อยจะแย่แล้วนะ”  แล้วทุกคนก็บ่นออดแอดไปตามๆ กัน

ฝ่ายพ่อค้าเกวียน เมื่อเห็นแผ่นหินดังนั้นก็ก้มลงเงี่ยหูฟัง และได้ยินเสียงน้ำเบื้องล่าง เขาจึงบอกคนรับใช้คนสนิทว่า

“ใต้แผ่นหินนี้มีน้ำอย่างแน่นอน เจ้าจงเอาค้อนเหล็กไปทุบที่หินนั้นเถิด หากเจ้าไม่ทุบ พวกเราก็ต้องอดน้ำตายกันทั้งหมด”

เมื่อคนรับใช้ได้ยินเช่นนั้น จึงเกิดความเพียร ทุบหินแผ่นนั้นจนแตกออก เกลียวน้ำเบื้องล่างก็พุ่งกระฉูดขึ้นมาอย่างรุนแรง ทุกคนเปล่งเสียงไชโยโห่ร้องกันด้วยความดีใจ หลังจากที่ได้ดื่มน้ำ อาบน้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำ พ่อค้าเกวียนก็ได้ปักธงทำเครื่องหมายไว้ แล้วเดินทางออกไปค้าขายยังต่างเมืองต่อไป

ข้อคิดจากชาดก : วัณณุปถชาดก
1.ความพยายาม เป็นบ่อเกิดของความสำเร็จ
2.ความช่างสังเกตของผู้นำ ช่วยให้บริวารรอดตาย

ประชุมชาดก
คนรับใช้ผู้ไม่ละความเพียร ทุบหินให้นํ้าแก่มหาชนในสมัยนั้น ได้เกิดเป็นภิกษุผู้ละความเพียรรูปนี้ ในบัดนี้

บริษัทที่เหลือในสมัยนั้นได้เกิดเป็น พุทธบริษัท ในบัดนี้
หัวหน้าพ่อค้าเกวียน ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

นิทานชาดก วัณณุปถชาดก