เหตุที่ตรัสชาดก สกุณชาดก : ภิกษุรูปหนึ่งได้ออกจากวัดเชตวันไปจำพรรษาที่ชนบทแห่งหนึ่ง ไม่ทันไรก็ถูกไฟไหม้บรรณศาลา ท่านจึงจำต้องพักอาศัยอยู่กลางแจ้ง ตลอดพรรษา 3 เดือน การอาศัยในที่ไม่เป็นสัปปายะเป็นอุปสรรคในการทำภาวนา เวลาผ่านไป 3 เดือนท่านจึงยังไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ
ในอดีตกาล ณ ป่าใหญ่ใกล้เมืองพาราณสี มีนกหลายพันตัวทำรังอาศัยอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งมีกิ่งก้านสาขาสมบูรณ์ด้วยความสุขสบายเสมอมา
ต่อมา ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นถูกลมพัดกระหน่ำอย่างแรงจนคาคบเสียดสีกัน ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และเกิดควันฟุ้งตลบทั่วบริเวณ
นกหัวหน้าฝูงเห็นเช่นนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ช้าจะเกิดไฟไหม้ขึ้นที่ต้นไม้นี้ ทางที่ดีเรารีบบอกพรรคพวกให้หนีไปเสียก่อนดีกว่า ครั้นแล้วจึงหันมาสั่งพรรคพวกให้รีบอพยพหนีโดยเร็ว
“จะไปไหนกันหรือ หัวหน้า” นกพวกหนึ่งร้องถามขึ้นเพราะเป็นห่วงรังของตน
“ไปไหนก็ได้ ให้ไกลจากที่นี่ไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวจะเกิดไฟไหม้แล้ว เห็นไหมล่ะ ควันกลบไปหมดนั่นไง” หัวหน้าตะโกนบอก
“ฮ่าๆๆ หัวหน้าก็ปอดแหกไปได้” นกพวกนั้นหัวร่องอหาย “เห็นแค่ควันขึ้นเท่านั้น ก็ตื่นเต้นตกใจว่าไฟไหม้เสียแล้ว ไปเถอะ ถ้าหัวหน้ากลัวก็รีบไป พวกฉันไม่ไปหรอก เพราะยังไงก็ไม่มีไฟแน่ๆ”
ฝ่ายนกผู้เป็นหัวหน้าฝูง เห็นว่าบอกยังไงพวกนั้นคงไม่เชื่อ จึงพาลูกเมียและพรรคพวกที่เชื่อฟังบินหนีไป
ต่อมาไม่นานก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่ต้นไม้นั้นอย่างแรง สมจริงดังที่มันคาดหมายทุกประการ นกบริวารผู้โง่แต่อวดฉลาด ตกใจรีบตะลีตะลานหนี แต่ก็ช้าไป ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ หล่นลงสู่พื้นดิน สิ้นชีวิตที่ตรงนั้นเอง
ข้อคิดจากชาดก : สกุณชาดก
1. ผู้มีปัญญามักมองการณ์ไกล หากไม่เชื่อคนมีปัญญาก็อาจตายได้ง่ายๆ
2. คนบางคนคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าผู้อื่น แต่จริงๆ แล้วตรงกันข้าม
ประชุมชาดก
นกที่ทำตามคำของหัวหน้าฝูง ได้เกิดเป็น พุทธบริษัท
นกหัวหน้าฝูง ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
