เหตุที่ตรัสชาดก มิตจินติชาดก : ทรงปรารภพระเถระผู้เฒ่า 2 รูป ที่เกียจคร้าน ผลัดวันในการมาเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนเวลาล่วงเลยไปถึง 3 เดือน
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี
มีปลา 3 ตัวเป็นเพื่อนกัน ตัวหนึ่งชื่อว่าคิดเยอะ ตัวหนึ่งชื่อคิดน้อย และอีกตัวชื่อคิดพอดี แต่เดิมอาศัยอยู่ในบึงใหญ่ในป่าของนครพาราณสี แต่แล้วก็ได้พากันเร่ร่อนออกมาจนถึงแม่น้ำที่มนุษย์พากันดักข่ายไว้
เจ้าคิดพอดีได้บอกกับเพื่อนทั้งสองว่า
“แถวนี้มีแต่อันตราย เพราะชาวประมงมักจะวางข่ายและเบ็ดไว้เสมอ พวกเราควรกลับไปอยู่ในบึงตามเดิมเถอะ”
แต่เจ้าปลาสองตัวที่เหลือกลับบอกว่า
“ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังทันน่า”
“อีกสองวันค่อยไปก็ยังไหว”
จนเวลาล่วงมาถึง 3 เดือนเต็มๆ
วันหนึ่งเจ้าปลาทั้งสองมัวเพลิดเพลินกับการหาอาหาร ไม่ระมัดระวังตัวจึงเข้าไปติดอยู่ในข่าย
ส่วนเจ้าคิดพอดี พอได้กลิ่นข่าย มันก็รู้ทันทีว่าเพื่อนทั้งสองของมันเข้าไปอยู่ในข่ายเสียแล้ว มันจึงทำทีว่ายเข้าไปข้างข่ายเหมือนปลาติดข่ายแล้วโดดข้ามข่ายไป ทำให้น้ำขุ่นหมดแล้วกลับไปข้างข่ายอีก แล้วก็โดดข้ามข่ายอีก ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง
ชาวประมงเห็นดังนั้นก็คิดว่าปลาข้ามข่ายออกไปได้ จึงยกข่ายขึ้น เจ้าปลาคิดเยอะกับปลาคิดน้อยจึงหลุดพ้นจากข่ายตกลงไปในน้ำ รอดตายอย่างหวุดหวิด
ข้อคิดจากชาดก : มิตจินติชาดก
1.เมื่อเห็นว่าจะมีภัยมาถึงตัวแล้วยังผลัดวันประกันพรุ่ง ย่อมต้องเจอกับภัยอันตรายนั้นอย่างแน่นอน
2.ผู้ไม่ประมาทและมีปัญญา นอกจากจะช่วยตนเองได้ยังช่วยเพื่อนฝูงได้อีกด้วย
ประชุมชาดก
ปลาคิดเยอะ และ ปลาคิดน้อย ได้เกิดเป็น พระเถระผู้เฒ่าทั้ง 2 รูป
ปลาคิดพอดี ได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
