นิทานชาดก กุสนาฬิชาดก : สหายผู้ต่ำต้อยบนยอดหญ้า

เหตุที่ตรัสชาดก กุสนาฬิชาดก : ทรงปรารภท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีที่มีเพื่อนเป็นชนชั้นต่ำกว่า และไว้ใจให้ทำการงาน

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี

เทพารักษ์ผู้มีศักดิ์ใหญ่ทั้งหลายได้อาศัยอยู่ที่วิมานบนต้นไม้ใหญ่ในพระราชอุทยาน เทพารักษ์ผู้มีศักดิ์ใหญ่องค์หนึ่งชื่อว่ารุจาเทวดา มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับเทพารักษ์ผู้มีศักดิ์น้อยชื่อว่า กุสนาฬิเทวดา ที่อาศัยอยู่บนกอหญ้าคา เทวดาทั้งสองแม้จะมียศศักดิต่างกันแต่ก็คบหาเป็นมิตรสนิทสนมกันเสมอมา

ในครั้งนั้น พระเจ้าพรหมทัตประทับอยู่ที่ปราสาทเสาเดียว แต่เสาปราสาทเกิดไหวขึ้นมา พวกราชบุรุษจึงพากันไปกราบทูล พระเจ้าพรหมทัตจึงตรัสเรียกให้ช่างไม้มาแล้วตรัสว่า

“เสาปราสาทมันไหวเสียแล้ว พวกเจ้าจงไปหาไม้ที่มีแก่นและแข็งแรงมาทำเสาปราสาทเถิด”

ช่างไม้จึงพากันไปหาต้นไม้ที่เหมาะแก่การทำเสาปราสาท ได้เข้าไปในพระราชอุทยานเห็นต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่ของรุจาเทวดา ก็เห็นตรงกันว่าควรใช้ต้นไม้นี้จึงพากันไปขอพระบรมราชานุญาติตัดต้นไม้ เมื่อได้รับอนุญาติแล้วช่างไม้จึงเตรียมของเซ่นไหว้ไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น 

“พระราชามีพระบรมราชานุญาติให้ตัดต้นไม้ต้นนี้เพื่อนำไปทำเสาปราสาท พวกข้าพเจ้าจึงมาบอกเจ้าที่เจ้าทางไว้ก่อนว่าพรุ่งนี้พวกข้าพเจ้าจะมาตัดต้นไม้ต้นนี้นะขอรับ” เสร็จแล้วก็พากันออกไป

ฝ่ายรุจาเทวดาเมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่หอบลูกหอบหลานยืนร้องไห้คร่ำครวญ

“แล้วอย่างนี้เราจะไปอยู่ที่ไหนได้ละ มาบอกกะทันหันอย่างนี้ โฮๆๆ”

เพื่อนเทวดาศักดิ์ใหญ่ด้วยกันได้ยินข่าว ต่างก็เข้ามาปลอบขวัญแต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรจึงพากันร้องไห้อยู่ด้วยกัน

พอดีว่ากุสนาฬิเทวดาศักดิ์น้อย ได้เดินทางมาเยี่ยมรุจาเทวดา ทราบความเช่นนั้นจึงบอกกับรุจาเทวดาว่า

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกท่าน เราจะหาทางไม่ให้ช่างไม้มาตัดต้นไม้ของท่าน คอยดูก็แล้วกัน”

วันรุ่งขึ้นพวกช่างไม้พากันถือเลื่อยและขวานตั้งใจจะมาตัดต้นไม้ตามพระราชประสงค์ กุสนาฬิเทวดาเห็นดังนั้นจึงแปลงกายเป็นกิ้งก่าวิ่งนำหน้าพวกช่างไม้ไปยังโคนต้นไม้ แล้วก็หายตัวเข้าไปในต้นไม้ทำให้ดูเหมือนว่าต้นไม้ใหญ่นั้นมีโพรงข้างใน แล้วเจ้ากิ้งก่าก็ไต่ขึ้นตามไส้ของต้นไม้ไปโผล่ที่คาคบ และไต่ขึ้นไปจนถึงยอด

หัวหน้าช่างไม้เห็นดังนั้นก็เอามือตบต้นไม้แล้วพูดอย่างหัวเสียว่า

“ต้นไม้นี้เป็นโพรง ไร้แก่น เมื่อวานไม่ได้ตรวจดูให้ดี คงต้องไปหาต้นอื่นเสียแล้วล่ะ” ว่าแล้วก็เดินออกไป

ฝ่ายเทวดาเจ้าของวิมานดีใจว่าได้ที่อยู่คืนแล้ว กล่าวสรรเสริญคุณของกุสนาฬิเทวดาไม่หยุด ว่า

“ขอขอบคุณท่านด้วยใจจริง พวกเราเป็นเทวดาศักดิ์ใหญ่เสียเปล่า แต่เมื่อมีภัยมาถึงตัวกลับจนปัญญาไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ท่านเป็นเพียงเทวดาบนยอดหญ้าคาแท้ๆ กลับเป็นผู้มาช่วยเรา ถ้าไม่ได้ท่านเราคงต้องไร้ที่อยู่เป็นแน่”

ข้อคิดจากชาดก : กุสนาฬิชาดก
1.ควรผูกมิตรกับคนทุกชนชั้น เพราะเมื่อถึงคราวคับข้นมิตรจะช่วยเราได้ในทางที่เขาถนัด
2.ไม่ควรดูถูกคนที่ด้อยกว่า เพราะแต่ละคนย่อมมีความสามารถและปัญญาต่างกัน ในคราวหน้าผู้ที่มีสถานะต่ำกว่า อาจจะช่วยเราก็ได้

ระชุมชาดก
รุจาเทวดา ได้เกิดเป็น พระอานนท์
กุสนาฬิเทวดาได้เกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

นิทานชาดก กุสนาฬิชาดก