นิทานชาดก อิลลีสชาดก : แฝดเทวดา

นิทานชาดก อิลลีสชาดก

เหตุที่ตรัสชาดก อิลลีสชาดก : ทรงปรารภเศรษฐีขี้ตระหนี่ชื่อมัจฉริโกสิยะ แม้จะมีทรัพย์มากเพียงใดก็ไม่ยอมใช้จ่าย แม้ตัวเองอยากกินขนม ก็กลัวคนอื่นจะเห็นจึงขึ้นไปกินข้างบนปราสาท แต่วันนั้นพระพุทธเจ้าเห็นว่ามัจฉริโกสิยะมีบุญพอจะโปรดได้จึงให้โมคคัลลานะเหาะไปโปรดบนปราสาท

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติในนครพาราณสี
มีเศรษฐีชื่อ อิลลีสะ มีทรัพย์มากมายถึง 80 โกฏิ แต่ทว่าเป็นคนอาภัพด้วยรูปร่าง ตาเข แขนง่อยเปลี้ย มิหนำซ้ำยังเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวอย่างที่สุด
แต่บิดามารดาของอิลลีสะ เป็นคนชอบบริจาคทาน เป็นทานบดีมาถึง 7 ชั่วตระกูล
เมื่อบิดามารดาเขาเสียชีวิตลง อิลลีสะ ก็ได้เผาโรงทาน ขับไล่พวกยาจก เก็บทรัพย์มรดกไว้แต่เพียงผู้เดียว

วันหนึ่ง อิลลีสะ กลับจากไปเข้าเฝ้าพระราชา เห็นชายบ้านนอกคนหนึ่งกำลังดื่มสุราอยู่ ก็นึกอยากดื่มบ้าง แต่ก็คิดว่าหากเขาดื่มสุราแล้ว คนอื่นก็ต้องมาขอดื่มด้วยเป็นแน่ จึงอดกลั้นความอยากไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ความอยากดื่มสุรานั้นก็ไม่ได้ทุเลาลงกลับทวีมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นคนตัวเหลือง เนื้อตัวผอมลีบ สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น นอนซมอยู่ ภรรยาเห็นจึงเข้าไปถาม

ภรรยา : ท่านพี่เศรษฐีเป็นอะไรไปคะท่าน อิลลีสะ ไม่สบายหรือ

เศรษฐี : ฉันไม่เจ็บไม่ไข้อะไรหรอก

ภรรยา : พระราชาทรงกริ้วท่านหรือคะ

เศรษฐี : เปล่า

ภรรยา : ถ้าอย่างนั้นคงเป็นพวกลูกๆ หรือบริวารทำให้ท่านไม่พอใจกระมังคะ

เศรษฐี : ไม่ใช่หรอก

ภรรยา : หรือท่านนึกอยากจะกินอะไรหรือเปล่าคะ

เศรษฐี : …………………………..

ภรรยา : โถท่าน อยากกินอะไรก็บอกมาเถิดค่ะ

เศรษฐี : ฉันอยากดื่มเหล้าสักหน่อยหนึ่ง

ภรรยา : เรื่องเท่านี้เอง ฉันจะปรุงเหล้าให้ท่านเยอะๆเลย แล้วเราจะได้แจกคนทั่วทั้งหมู่บ้านเลย ดีไหมคะ

เศรษฐี : เธอจะพูดถึงพวกนั้นทำไม พวกเขาหากินกันเองได้หรอก

ภรรยา : ถ้างั้นก็ทำพอแจกพวกที่อยู่ตรอกเดียวกันก็พอนะคะ

เศรษฐี : ฉันรู้ละว่าเธอน่ะรวย

ภรรยา : งั้นก็แจกเฉพาะบ่าวไพร่ในเรือนนะคะ

เศรษฐี : จะไปยุ่งกับพวกนั้นทำไม

ภรรยา : งั้นก็ปรุงเฉพาะท่านกับฉันดีไหมคะ

เศรษฐี : เธอมาเกี่ยวอะไรด้วย

ภรรยา : ….. งั้นฉันจะปรุงให้ท่านดื่มคนเดียวก็แล้วกันค่ะ

เศรษฐีคิดในใจว่าถ้าปรุงสุราที่นี่ คนอื่นๆก็จะมามุงดู จึงบอกกับภรรยาว่า

“เธอไปซื้อมาจากตลาดก็แล้วกัน แล้วฉันจะแอบเอาไปกินนอกเมือง” แล้วก็ให้เงินภรรยา 1 มาสกเพื่อไปซื้อเหล้า

เมื่อได้เหล้ามาแล้วเขาก็ซ่อนขวดสุราไว้อย่างดี เดินทางออกนอกเมือง หลบเข้าสุมทุมพุ่มไม้ แล้วจึงได้ดื่มสุรา

ส่วนบิดาของเศรษฐีอิลลีสะนั้นเกิดเป็นท้าวสักกะในเทวโลก ด้วยผลบุญที่เคยทำไว้เมื่อตอนเป็นมนุษย์ ได้มองลงมาแล้วเห็นว่าลูกชายไม่ได้สืบต่อปณิธานในการบริจาคทาน แต่กลับเป็นคนตระหนี่หวงแหนทรัพย์ เผาโรงทานทั้งหลายเสียสิ้น จึงดำริที่จะมาขนาบและสั่งสอนอิลลีสะ

พระองค์จึงจำแลงกายเป็นอิลลีสะ เข้าสู่พระนครเพื่อไปพบพระราชา

“ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้ามาโดยประสงค์ว่า ในเรือนของข้าพระพุทธเจ้ามีทรัพย์อยู่ประมาณ 80 โกฏิ ขอพระองค์ได้โปรดให้ขนมาเข้าท้องพระคลังของพระองค์เถิด”

“อย่าเลย ท่านมหาเศรษฐี ทรัพย์ในวังของเรา มีมากกว่าทรัพย์ของท่านอีกนะ” พระราชาปฏิเสธ

“ขอเดชะ ถ้าพระองค์ไม่ต้องพระประสงค์ ข้าพระองค์จะจ่ายทรัพย์ให้ทานตามความพอใจพระเจ้าข้า” อิลลีสะตัวปลอมทูลต่อ

“ตามใจท่านเถิด ท่านเศรษฐี” พระราชาอนุโมทนา

เมื่ออิลลีสะตัวปลอม กลับมาบ้าน ก็ได้สั่งนายประตูไว้ว่าหากมีคนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนเขาเข้ามาให้เฆี่ยนตีแล้วไล่ออกไป จากนั้นจึงชวนภรรยา บุตร ธิดา ให้ขนทรัพย์ออกมาบริจาคทาน ภรรยาเขาเข้าใจว่าอิลสีละได้ดื่มสุราแล้วเกิดใจดีขึ้นมาจึงไม่คิดสงสัยใดๆ อิลลีสะได้สั่งให้คนไปประกาศทั่วพระนครว่าหากใครต้องการทรัพย์สินเงินทอง ให้มารับได้ที่บ้านอิลลีสะเศรษฐี

เมื่อชาวเมืองได้ยินเช่นนั้นจึงพากันแห่มาที่บ้านอิลลีสะ ต่างก็ขนข้าวของ ทรัพย์สินเงินทองกลับไปอย่างเอิกเริก

ฝ่ายอิลลีสะตัวจริงเมื่อได้ดื่มสุราจนพอใจ ก็เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางได้เห็นคนขนเงินขนทองกันเป็นจำนวนมาก แล้วยังได้ยินเสียงคนสรรเสริญตัวเองว่าเป็นคนใจดี เห็นอกเห็นใจคนยากจน

อิลลีสเศรษฐีฟังเสียงนั้นแล้ว เกิดกลัวหวาดผวาฉุกใจคิดว่าคงมีคนกล่าวอ้างชื่อของตนเป็นแน่ จึงได้รีบวิ่งกลับบ้าน นายประตูเห็นจึงเฆี่ยนตีและไล่ออกไป

เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงไปเข้าเฝ้าพระราชา

“ขอเดชะ พระองค์สั่งให้คนปล้นเรือนของข้าพระองค์หรือพระเจ้าข้า”

“เราไม่ได้สั่ง ท่านนั่นแหละมาบอกเราเองว่าหากเราไม่รับทรัพย์ของท่าน ท่านจะบริจาคทานทั้งหมด แล้วให้คนไปเที่ยวตีฆ้องร้องป่าว” พระราชาตรัสตอบ

“ขอเดชะ ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ข้าพระองค์มิได้มาที่สำนักของพระองค์เลย พระองค์ไม่ทรงทราบความที่ข้าพระองค์เป็นคนตระหนี่หรือพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่ยอมให้แม้หยดน้ำมันด้วยปลายหญ้าแก่ใครๆ ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ขอได้ทรงพระกรุณาโปรดเรียกคนที่ให้ทานนั้นมา ทรงพิจารณาเถิด พระเจ้าข้า” อิลลีสะเศรษฐีกราบทูลยืดยาว

พระราชาจึงตรัสเรียกอิลลีสะตัวปลอมมาเข้าเฝ้า

เมื่ออิลลีสะทั้งสองมาอยู่ด้วยกัน ทุกคนต่างลงความเห็นว่าพระอินทร์จำแลงคืออิลลีสะตัวจริงทั้งสิ้น

อิลลีสะตัวจริงแทบจะตีอกชกหัวตัวเอง แต่ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ที่ศีรษะของเขามีปุ่มอยู่ มีแต่ช่างตัดผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ จึงกราบทูลให้พระราชาตรัสเรียกช่างตัดผมคนนั้นมา

เมื่อช่างตัดผมได้ตรวจดูที่ศีรษะของทั้งสองแล้วจึงกราบทูลตามตรง

“ขอเดชะ ทั้งสองคนเป็นคนกระจอก เป็นคนค่อม มีนัยน์ตาเหล่ และมีปุ่มที่ศีรษะเหมือนกัน ข้าพระองค์ไม่อาจชี้ตัวอิลลีสะได้ พระเจ้าข้า”

เมื่อเศรษฐีได้ฟังดังนั้นก็ ตัวสั่นงันงก ไม่อาจตั้งสติไว้ได้ เพราะความโลภในทรัพย์ ล้มลงตรงนั้นเอง

พระอินทร์จึงแปลงกาย ยืนอยู่บนอากาศแล้วกล่าวว่า

“ดูก่อนมหาราช เรามิไช่ อิลลีสะหรอก เราคือท้าวสักกะ ผู้เป็นบิดาของอิลลีสะ”

เหล่าอำมาตย์ได้ช่วยกันเอาน้ำราดตัวอิลลีสะให้ตื่นขึ้น พระอินทร์จึงกล่าวต่อ

“อิลลีสะ ทรัพย์นี้เป็นของเราไม่ใช่ของท่าน เพราะเราเป็นบิดาของท่าน ท่านเป็นบุตรของเรา เราทำบุญให้ทาน ด้วยผลบุญนี้จึงได้มาเกิดเป็นท้าวสักกะปกครองสวรรค์ แต่เธอตัดวงษ์ของเราขาดสิ้น เป็นผู้ไม่ยอมให้ทาน ตั้งอยู่ในความตระหนี่ เผาโรงทาน ขับไล่พวกยาจก เอาแต่สั่งสมทรัพย์ บริโภคเองก็ไม่ยอมบริโภค ให้คนอื่นก็ไม่ให้ ทำตนเหมือนรากษสหวงสระน้ำ ถ้าเธอกลับสร้างโรงทานให้เป็นปกติแล้วให้ทาน นั่นเป็นความฉลาด หากไม่ให้ทาน เราจักทำทรัพย์ของเธอให้อันตรธานไปจนหมด แล้วจักตีศีรษะด้วยอินทวัชระนี้ ให้สิ้นชีวิต”

อิลลีสเศรษฐี ได้ยินดังนั้นจึงเกิดความกลัวตายแล้วจึงให้ปฏิญาณว่าจะให้ทานสืบต่อเจตนารมณ์บิดา

พระอินทร์พอใจ แสดงธรรมให้ทุกคนตั้งอยู่ในศีล แล้วจึงเสด็จกลับสวรรค์

ตั้งแต่นั้นอิลลีสเศรษฐี ก็ทำบุญให้ทานเป็นประจำเสมอมา

ข้อคิดจากชาดก : อิลลีสชาดก
1.ทรัพย์สินเงินทองในชาตินี้ไม่สามารถติดตัวเราไปในชาติหน้าได้ นอกจากการเปลี่ยนทรัพย์ให้เป็นบุญ ด้วยการให้ทาน เป็นต้น บุญนั้นจึงจะติดตัวเราไปได้
2.บุญที่ทำตลอดชีวิต ย่อมส่งผลให้มีสุคติเป็นที่ไป
3.บิดาย่อมห่วงใยบุตรเสมอ แม้ละโลกไปแล้วยังตามมาสั่งสอนให้เป็นคนดีตั้งอยู่ในศีลธรรม

ประชุมชาดก
อิลลีสเศรษฐี ได้เกิดเป็น เศรษฐีผู้มีความตระหนี่
ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) ได้เกิดเป็น พระโมคคัลลานะ
พระราชา ได้เกิดเป็น พระอานนท์

นิทานชาดก อิลลีสชาดก อิลลีสะ นิทาน ชาดก อนิเมชั่น นิทานชาดก นิทานคุณธรรม