Tag Archives: กตัญญู

คุณชาดก : ราชสีห์เกือบตาย รอดมาได้เพราะจิ้งจอก

คุณชาดก

เหตุที่พระพุทธเจ้าทรงเล่า คุณชาดก : ได้พูดถึงคุณธรรมของพระอานนท์ ที่มีความกตัญญูกตเวทีคือรู้คุณและตอบแทนคุณพระภิกษุผู้มีอุปการะแก่ตน

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในกรุงพาราณสี

มีราชสีห์ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำบนยอดเขา ด้านล่างเขาลูกนั้น มีสระน้ำใหญ่และทุ่งหญ้าเขียวขจี เป็นที่หาอาหารของสัตว์ต่างๆ

ในวันนั้นเองมีกวางตัวหนึ่งกำลังเล็มหญ้ากินอย่างเอร็ดอร่อย ราชสีห์มองลงมาจากบนยอดเขา คิดจะจับกวางตัวนั้นกิน จึงกระโดดลงจากยอดเขา แล้ววิ่งไปด้วยความเร็ว 

เจ้ากวางกลัวตายจึงส่งเสียงร้องแล้วก็รีบวิ่งหนีสุดชีวิต กวางตัวนั้นรอด  ส่วนราชสีห์เบรคไม่ทัน จึงลื่น สไลด์ตกลงไปในแอ่งโคลนตม ใกล้ๆสระใหญ่

แม้จะพยายามออกแรงยังไง ก็ไม่สามารถขึ้นมาจากหล่มนั้นได้ จึงได้แต่ยืนปักเท้าทั้ง 4 อยู่ที่โคลนตมนั้น อดอาหารอยู่ถึง 7 วัน 

ต่อมาในวันที่ 8 มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินเที่ยวหาอาหาร เมื่อเห็นราชสีห์ก็หนีไปด้วยความกลัว ราชสีห์เห็นสุนัขจิ้งจอกก็ร้องเรียกแล้วพูดว่า

“เจ้าจิ้งจอกกลับมาก่อน เจ้าอย่าเพิ่งหนีไป ข้าติดอยู่ที่นี่มา 7 วันแล้ว ช่วยข้าด้วยเถอะ”

สุนัขจิ้งจอกตะโกนกลับไปว่า

“ข้าก็อยากช่วยท่านอ่ะนะ แต่ถ้าท่านขึ้นมาได้ ท่านก็จะจับข้ากินน่ะสิ”

 

“เจ้าไม่ต้องกลัวว่าข้าจะทำร้ายผู้มีพระคุณหรอก ถ้าข้าขึ้นไปได้ จะตอบแทนคุณเจ้าอย่างสาสม”

“เอ ทำไมมันฟังดูแปลกๆล่ะ เอาๆ ข้าช่วยเจ้าก็ได้”

เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัดสินใจช่วยชีวิตราชสีห์  เพราะมั่นใจว่าราชสีห์เป็นสัตว์ที่พูดคำไหนคำนั้น  ไม่เคยปลิ้นปล้อนหลอกลวง

มันก็เลยวิ่งเข้าไปตะกุยดินรอบเท้าทั้ง 4 ของราชสีห์ ขุดให้เป็นลำลางเล็กๆ เพื่อให้น้ำในสระข้างๆ ไหลเข้าไปได้  เมื่อน้ำไหลเข้าไปทำให้โตลนอ่อนตัว ราชสีห์ก็ขยับเท้าได้ 

อลีนจิตตชาดก : ช้างเผือกกตัญญู จากรุ่นพ่อต่อรุ่นลูก

อลีนจิตตชาดก ช้างเผือก

เหตุที่พระพุทธเจ้าทรงเล่า อลีนจิตตชาดก : ทรงเล่าเพื่อเป็นกำลังใจให้พระภิกษุรูปหนึ่งที่มีความย่อหย่อนในการทำความเพียร และอยากจะสึก

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในกรุงพาราณสี

มีหมู่บ้านช่างไม้อาศัยอยู่ไม่ไกลจากเมือง พวกเขามักจะล่องเรือไปตัดไม้ทางเหนือ เพื่อนำกลับมาสร้างบ้านขายให้กับชาวเมือง อยู่มาวันนึงขณะที่พวกเขากำลังช่วยกันตัดไม้อยู่ในป่า มีช้างป่าตัวนึงเหยียบตอต้นตะเคียนเข้า ตอไม้ได้แทงเข้าไปในเท้าช้าง มันเจ็บปวดมาก และเท้ามันบวมเป็นหนอง  ได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส ไม่รู้จะทำยังไง 

เจ้าช้างได้ยินเสียงตัดไม้ของช่างไม้อยู่ไม่ไกล จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา แล้วหมอบลงใกล้ๆ

ช่างไม้เห็นช้างเท้าบวมก็เลยรีบเข้าไปดู 

“เห้ย นั่นนายไปเหยียบอะไรมา เท้าบวม เลือดโชกขนาดนี้ พวกเรา มาช่วยกันทำแผลให้เจ้าช้างนี่หน่อย”

ช่างไม้ทั้งหมดต่างก็รีบมาช่วยกันปฐมพยาบาลทันที  ด้วยการใช้มีดกรีดรอบตอไม้ ผูกเชือกแล้วช่วยกันดึงออกมา บีบหนองแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วก็ใส่ยาทาแผล ไม่นานนักช้างก็หายเจ็บปวด เจ้าช้างคิดว่า

“เรารอดชีวิตมาได้ เพราะช่างไม้ ได้ช่วยเหลือเราไว้ เราควรจะอยู่ช่วยพวกเขาทำงานเพื่อเป็นการตอบแทน” 

ตั้งแต่นั้นมา เจ้าช้างตัวโตก็อยู่เป็นลูกมือช่างไม้ ช่วยลากซุงบ้าง ช่วยพลิกไม้บ้าง หยิบของส่งให้บ้าง  แต่ตอนนี้เจ้าช้างมันแก่มาก และทำงานหนักต่อไปไม่ไหว ก็เลยคิดว่า จะให้ลูกของมันมาอยู่รับใช้ช่างไม้แทนตัวเองต่อไป จึงเข้าป่าไปพาลูกช้างเผือกของตน มามอบให้กับเหล่าช่างไม้ และบอกกับช่างไม้ว่า

“นี่คือลูกช้างเผือกของเรา เราขอมอบลูกให้กับท่านเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเหลือชีวิตเรา ตั้งแต่นี้ ลูกเผือกจะได้มาอยู่ช่วยท่านทำงาน เราก็แก่มากแล้วขอไปตามทางของเรา ขอให้ท่านจงเอ็นดูลูกของเราด้วยเถอะ”

 

แล้วหันไปสอนลูกว่า

“ช่างไม้เหล่านี้มีพระคุณกับพ่อมาก พวกเขาได้ช่วยเหลือชีวิตพ่อไว้ เจ้าจงอยู่ตอบแทนคุณของเขาแทนพ่อเถอะ”

“ได้ครับพ่อ พ่อไม่ต้องห่วง พ่อกลับไปอยู่กับแม่เถอะ ทางนี้ ผมจะดูแลเอง” 

เจ้าช้างเผือกน้อยตอบพ่อด้วยความมั่นใจ