Category Archives: นิทาน เรื่องของมนุษย์

นิทานชาดก จุลลกเศรษฐีชาดก : ซากหนูสร้างเศรษฐี

หตุที่ตรัสชาดก จุลลกเศรษฐีชาดก : ทรงปรารภการบรรลุธรรมของพระจุลลปันถก ซึ่งได้เรียนพระคาถาถึง 4 เดือนจากพระพี่ชาย (พระมหาปันถก) ก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ได้เรียนธรรมะจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงวันเดียวก็บรรลุธรรมได้อย่างง่ายดาย

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชย์สมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี

มีเศรษฐีคนหนึ่ง ชื่อว่า จุลลกเศรษฐี  ซึ่งนอกจากจะมีทรัพย์สมบัติมากแล้ว ยังฉลาดรอบรู้ในเรื่องนิมิตดีร้ายอย่างดีอีกด้วย

วันหนึ่งเขาไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินกับคนรับใช้ที่ชื่อ จูฬันเตวาสิก ในระหว่างทาง ท่านเศรษฐีได้เห็นหนูตายตัวหนึ่ง ที่ข้างถนน จึงตรวจดูฤกษ์ผานาที แล้วพูดขึ้นว่า

“ถ้าใครมีปัญญา หนูตัวนี้จะทำให้เขาเป็นเศรษฐีได้ในไม่ช้า” 

นิทานชาดก วัณณุปถชาดก : น้ำใสใต้กอหญ้า

เหตุที่ตรัสชาดก วัณณุปถชาดก : ทรงปรารภภิกษุผู้ละความเพียรรูปหนึ่ง

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชย์สมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี

มีพ่อค้าเกวียนได้ทำการค้าด้วยเกวียน 500 เล่ม เดินทางไปค้าขายยังต่างเมือง และจำเป็นต้องเดินทางผ่านทะเลทรายซึ่งมีระยะทางประมาณ 60 โยชน์ ( 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร)

การเดินทางในทะเลทรายนั้น ในเวลากลางวันอากาศจะร้อนเหมือนกองถ่านเพลิง ไม่อาจเดินทางได้ ดังนั้นกองเกวียนจึงได้หยุดพักในเวลากลางวันแล้วเดินทางในเวลากลางคืน

พ่อค้าเกวียนเดินทางมาได้ 59 โยชน์ จึงคิดว่า อีกไม่นานก็จะพ้นทะเลทรายแล้ว จึงได้ให้ลูกน้องใช้ฟืนและน้ำทั้งหมด แล้วเดินทางต่อไปตามทิศทางของดวงดาว

ด้วยความเหนื่อยและความอ่อนเพลียที่ไม่ได้นอนหลับมาเป็นเวลานาน พ่อค้าเกวียนซึ่งเป็นผู้นำทาง จึงเผลอหลับไป แต่วัวและกองคาราวานก็ยังคงเดินทางต่อไป

เมื่อเขาตื่นขึ้น ปรากฏว่ากองเกวียนนั้นได้เดินวนกลับมาที่เดิม และใกล้จะเช้าแล้ว

นิทานชาดก อปัณณกชาดก :อย่าไว้ใจน้ำบ่อหน้า

เหตุที่ตรัสชาดก อปัณณกชาดก : ทรงปรารภสาวกของเดียรถีย์ ที่กรุงสาวัตถี สหายของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เมื่อสาวกของอัญญเดียรถีย์ ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มีจิตเลื่อมใส จึงนับถือพระรัตยตรัยเป็นสรณะ แต่เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จจากกรุงสาวัตถี กลับไปกรุงราชคฤห์ เหล่าสาวกอัญญเดียรถีย์ก็หันกลับไปนับถืออัญญเดียรถีย์ ตามเดิม

กาลครั้งหนึ่ง ในนครพาราณสี มีพระราชาชื่อ พรหมทัตเป็นผู้ปกครอง
มีพ่อค้าสองคนได้ทำการค้าขายด้วยเกวียน 500 เล่ม คนหนึ่งเป็นคนฉลาด มีปัญญา อีกคนหนึ่งเป็นคนโง่เขลา

ทั้ง 2 ได้มานั่งพักเพื่อที่จะเตรียมตัวเดินทางไปค้าขายยังหัวเมืองเดียวกัน พ่อค้าคนฉลาดคิดว่าถ้าเราจะไปพร้อมกันเสบียงต่างๆ เช่น น้ำและฟืน อาจจะไม่พอ แม้หนทางก็จะคับแคบ จึงได้ถามพ่อค้าอีกคนขึ้นว่าเขาจะไปก่อนหรือจะไปทีหลัง 

นิทานชาดก โกสิยชาดก : สูตรยาแก้หญิงมีชู้

เหตุที่ตรัสชาดก โกสิยชาดก ทรงปรารภภรรยาของอุบาสกท่านหนึ่งที่เอาแต่นอนทอดถอนใจไม่ทำการงานอะไร (ลับหลังสามีก็แอบไปมีชู้) อุบาสกถามว่าเป็นอะไรนางบอกว่าเป็นโรคลมเสียดแทงต้องกินเนยใส น้ำนมและของที่ประณีต อุบาสกจึงรีบไปหามาให้ แต่กินเท่าไรก็ไม่หายสักที จึงได้มากราบทูลพระศาสดา 

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี

มีอาจารย์ทิศาปาโมกข์ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่ในเมืองนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งเรียนจบแล้วและแต่งงานมีภรรยา ปกติจะมาหาอาจารย์ของเขาวันละ 2-3 ครั้งอยู่เสมอ แต่ช่วงนี้หายหน้าไปเพราะต้องไปดูแลภรรยาที่นอนป่วย เมื่อมีเวลาจึงได้มาไหว้อาจารย์

“เอ้า พ่อหนุ่ม หายหน้าหายตาไปหลายวันเชียวนะ เป็นอะไรหรือเปล่า”  อาจารย์ถาม 

นิทานชาดก ทุมเมธชาดก : พระราชาคิดฆ่าช้างเผือก

เหตุที่ตรัสชาดก ทุมเมธชาดก : ทรงปรารภความอิจฉาริษยาของพระเทวทัตที่มีต่อพระพุทธองค์

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้ามคธเสวยราชสมบัติในกรุงราชคฤห์

พระองค์มีช้างพระที่นั่งเชือกหนึ่ง เป็นพญาช้างเผือกที่มีลักษณะสมบูรณ์ด้วยลักษณะอันประเสริฐทุกประการ

วันหนึ่งมีงานมหรสพประจำปี พระองค์โปรดให้ประดับตกแต่งพระนครอย่างงดงามราวสรวงสวรรค์ แล้วทรงช้างพระที่นั่งเลียบพระนครตามขัตติยประเพณี

ฝ่ายพสกนิกรทั้งหลายที่เฝ้าชมพระบารมี เมื่อได้เห็นช้างพระที่นั่ง ก็พากันโสมนัสปรีดา ต่างก็ชื่นชมพรรณาถึงช้างเผือกเท่านั้น ว่างามอย่างนั้นอย่างนี้ มิได้สนใจพระราชาที่ประทับบนหลังช้างแม้แต่น้อย

เมื่อพระราชาประสบเหตุการณ์ดังนั้น ก็ทรงแค้นเคืองพระทัย มีจิตริษยาช้างเผือกของพระองค์เองและตั้งใจว่าจะฆ่าช้างเชือกนี้ให้ได้ จึงได้ตรัสถามควาญช้างว่า 

“ช้างตัวนี้ เจ้าฝึกดีแล้วรึ”

“ฝึกดีแล้วพระเจ้าข้า” นายหัตถาจารย์ทูลตอบ

“ข้าจะให้ช้างตัวนี้ขึ้นไปบนยอดเขาได้ไหม” พระราชาถามต่อ

นิทานชาดก อกาลราวิชาดก : ตายเพราะไม่มีใครสั่งสอน

เหตุที่ตรัสชาดก อกาลราวิชาดก : ทรงปรารภภิกษุผู้ท่องบ่น สวดมนต์ไม่เป็นเวลารูปหนึ่ง

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี

มีอาจารย์ทิศาปาโมกข์ผู้หนึ่ง มีลูกศิษย์ในปกครอง 500 คน ในสำนักเรียนนั้นมีไก่อยู่ตัวหนึ่งคอยขันให้สัญญาณแก่ลูกศิษย์เพื่อตื่นขึ้นมาศึกษาบทเรียน ไก่ตัวนี้ขันตรงเวลาดีมาก แต่ต่อมาไม่นานก็ตายตามสภาพสังขาร

เมื่อไก่ตัวนั้นตายแล้ว พวกลูกศิษย์ก็หาไก่ตัวใหม่มาเลี้ยงแทน เขาไปเจอมันในป่าช้า ก็จับมันมาใส่กรงเลี้ยงไว้ เนื่องจากเป็นไก่ป่า ไม่รู้เวลาขัน นึกอยากขันเมื่อไรก็ขันตามใจชอบ

พวกลูกศิษย์พากันตื่นตามเวลาที่ไก่ขัน บางวันขันดึกเกินไป ก็เป็นเหตุให้พวกเขาง่วงเหงาหาวนอน บางวันขันตอนสว่าง พวกลูกศิษย์ก็ไม่มีเวลาได้ศึกษาเล่าเรียน 

“ไก่ตัวนี้ขันไม่เป็นเวลา พวกเราจะเรียนไม่สำเร็จก็เพราะมันนี่แหละ” ลูกศิษย์คนหนึ่งบ่น

“นั่นสิ จับมันหักคอ ย่างกินเสียดีกว่า” อีกคนเสนอ

นิทานชาดก ทุพพจชาดก : โดนหอกแทง เพราะคิดแผลงๆว่าตัวเก่ง

เหตุที่ตรัสชาดก ทุพพจชาดก : ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี

มีชายผู้หนึ่งเป็นนักกระโดดสูง เก่งทางกระโดดข้ามหอกแหลนหลาวต่างๆ อยู่ในคณะนักแสดงคณะหนึ่ง ได้เที่ยวไปแสดงศิลปะกับอาจารย์ อยู่เป็นประจำ

วันหนึ่ง อาจารย์ของเขาได้ไปแสดงการกระโดดในที่แห่งหนึ่ง ก่อนกระโดดได้ดื่มเหล้าย้อมใจจนเมามาย แล้วสั่งให้คนปักหอก 5 เล่มเรียงกัน ประกาศว่า

“วันนี้ ข้าจะกระโดดข้ามหอก 5 เล่ม ให้พวกเจ้าดูเป็นขวัญตา ฮ่าๆๆๆ”

เมื่อลูกศิษย์ได้ยินเช่นนั้น เกรงว่าอาจารย์จะได้รับอันตรายจึงค้านขึ้นว่า 

นิทานชาดก สิคาลชาดก : สุนัขจิ้งจอกหลอก (ขี้) ใส่ผ้า

เหตุที่ตรัสชาดก สิคาลชาดก : ทรงปรารภพระเทวทัตที่ชอบพูดมุสาอยู่เป็นนิจ

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในนครพาราณสี

ในครั้งนั้นมีงานนักขัตฤกษ์ครึกครื้น ชาวเมืองจัดข้าวปลาอาหารและเหล้าจำนวนมากไปตั้งไว้ในที่ต่างๆ เพื่อบวงสรวงยักษ์และสัมภเวสีทั้งหลาย

ตกกลางคืนมีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งลอบเข้าเมืองทางท่อระบายน้ำ มันกินเนื้อ ปลา อาหาร และเหล้าจนอิ่มแปล้ แล้วหลบไปนอนอยู่ในพุ่มไม้จนสว่าง

เมื่อตื่นมา มันคิดว่าไม่ควรออกไปในเวลานี้ ถ้าคนเห็น มันต้องโดนตีตายแน่ มันจึงไปนอนแอบอยู่ข้างถนนแห่งหนึ่ง เห็นคนเดินผ่านไปมาก็เฉยเสีย จนกระทั่งมันเห็นพราหมณ์คนหนึ่งกำลังเดินมา มันคิดในใจ

‘ธรรมดาพราหมณ์ย่อมงกเงิน เราจะหลอกพราหมณ์คนนี้ให้พาเราออกจากเมืองให้ได้’